ข้อควรระวังในการซ่อมบำรุง


id000000800200


ข้อควรระวังเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ/ความเสียหาย

•  พัดลมระบายความร้อนอาจทำงานทันทีถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะดับอยู่ (LOCK) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่นด้วย ดังนั้นให้ระวังไม่ให้มือและเครื่องมือเข้าใกล้พัดลมระบายความร้อนเกินไปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือความเสียหายที่อาจเกิดกับบุคคล หรือพัดลมระบายความร้อน ให้ถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบออกเสมอเมื่อต้องทำงานเกี่ยวกับพัดลมระบายความร้อน หรือชิ้นส่วนบริเวณใกล้เคียง

การปกป้องรถยนต์

•  ต้องแน่ใจว่าได้ใช้ผ้าคลุมส่วนบังโคลน, เบาะนั่ง และพื้นรถก่อนเริ่มต้นทำงาน
am6zzw00008910

การเตรียมเครื่องมือและเครื่องมือตรวจวัด

•  ต้องแน่ใจว่าได้เตรียมเครื่องมือและเครื่องมือตรวจวัดที่จำเป็นทุกชิ้นไว้พร้อมแล้วก่อนเริ่มต้นทำงาน
am6zzw00008911

เครื่องมือพิเศษในการบริการ

•  ใช้เครื่องมือเศษในการบริการหรือเทียบเท่าเมื่อจำเป็น
am6zzw00008912

ระบบการวิเคราะห์ปัญหา

•  ใช้ระบบ M-MDS (Mazda Modular Diagnostic System) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาความผิดปกติ

การเชื่อมต่อกับระบบวิเคราะห์ปัญหา

•  ในขณะที่ OFF สวิตช์กุญแจ ให้เชื่อมต่อกับระบบวิเคราะห์ปัญหาที่ขั้วต่อ DLC-2 ดังแสดงในภาพ
am2zzw00009030


การตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมันหล่อลื่น

•  ใช้ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งต่อไปนี้เพื่อระบุประเภทของน้ำมันหล่อลื่นที่รั่ว:

การใช้แสง UV (แบล็กไลต์)

1.  ถ่ายน้ำมันหล่อลื่นออกจากเครื่องยนต์หรือระบบเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้า

หมายเหตุ
•  อ้างอิงกับคู่มือการใช้งานสีย้อมแบบเรืองแสง (fluorescent dye) ผสมสีย้อมในปริมาณที่กำหนดลงในน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้า

2.  เทสีย้อมแบบเรืองแสงลงในน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้าที่ถ่ายออก แล้วจึงเทกลับเข้าไป

3.  ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงาน 30 นาที

4.  ตรวจสอบสีย้อมที่รั่วซึมออกมาโดยการฉายแสง UV (แบล็กไลต์) แล้วระบุประเภทของน้ำมันหล่อลื่นที่รั่วซึมอยู่

5.  ถ้าไม่พบการรั่วซึมของสีย้อม ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานอีก 30 นาที หรือขับรถต่อ จากนั้นจึงตรวจสอบซ้ำ

6.  ค้นหาตำแหน่งที่น้ำมันหล่อลื่นรั่วออกมา จากนั้นจึงดำเนินการซ่อมแซมตามความจำเป็น

หมายเหตุ
•  สำหรับการตัดสินใจว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นหลังจากเติมสีย้อมแบบเรืองแสงเข้าไปแล้วหรือไม่ ให้อ้างอิงจากคู่มือการใช้งานสีย้อมแบบเรืองแสง


ไม่ใช้แสง UV (แบล็กไลต์)

1.  รวบรวมตัวอย่างน้ำมันหล่อลื่นที่รั่วซึมออกมาโดยใช้กระดาษทิชชูซับสีขาว

am6zzw00008913

2.  จากนั้น รวบรวมตัวอย่างน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้าบางส่วนบนผ้าขาวหรือแผ่นกระดาษ

•  รถยนต์เกียร์ MT: น้ำมันเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้า
•  รถยนต์เกียร์ AT: น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
•  รถยนต์เกียร์ CVT: น้ำมันเกียร์ CVT

3.  เปลี่ยนเทียบลักษณะภายนอกและกลิ่น จากนั้นระบุประเภทของน้ำมันหล่อลื่นที่รั่ว

4.  ถ่ายน้ำมันหล่อลื่นออกจากเครื่องยนต์หรือระบบเกียร์/เกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้า

5.  ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงาน 30 นาที

6.  ตรวจสอบตำแหน่งที่น้ำมันหล่อลื่นรั่วออกมา จากนั้นจึงดำเนินการซ่อมแซมตามความจำเป็น


การถอด/ต่อสายขั้วลบแบตเตอรี่


คำเตือน

•  ก่อนถอดชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบถุงลมนิรภัย SRS ให้ถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบออกก่อนเสมอและรออย่างน้อย 1 นาที เพื่อปล่อยให้แหล่งจ่ายไฟสำรองคายประจุที่เก็บไว้ให้หมดก่อน (ดู คำเตือนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงระบบถุงลมนิรภัย [ระบบควบคุมการพองตัวแบบมาตรฐาน]) (ดู คำเตือนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงระบบถุงลมนิรภัย [ระบบควบคุมการพองตัวสองจังหวะ])


ขั้นตอนที่จำเป็นหลังการถอด/ต่อสายแบตเตอรี่ขั้วลบ

ชื่อระบบ

สภาพหลังจากถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบออกแล้ว

ขั้นตอนที่จำเป็น

ข้อมูลอ้างอิง

ก่อนถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบออก

หลังต่อสายแบตเตอรี่ขั้วลบ

ระบบกระจกไฟฟ้า
รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นอัตโนมัติได้
ดำเนินการตั้งค่าเริ่มต้นของระบบกระจกไฟฟ้า
นาฬิกาและเครื่องเสียง
การแสดงผลนาฬิกาและหน่วยความจำของระบบเครื่องเสียงจะถูกรีเซ็ท
ตรวจสอบข้อมูลการตั้งค่า
กำหนดข้อมูลที่จะตรวจสอบก่อนถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบออก
ระบบ i-stop
ข้อมูลที่กำหนดไว้ใน PCM จะถูกลบออกและระบบ i-stop จะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ตรวจสอบความถูกต้องของค่า PID “BATT_SOC” และบันทึก *1
ทำการตั้งค่าเริ่มต้นสภาวะแบตเตอรี่ (การตั้งค่าระบบ i-stop) *2
ระบบเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
ความแม่นยำในการตรวจจับของระบบเตือนแรงดันลมยางลดลง
ทำการตั้งค่าเริ่มต้นระบบเตือนแรงดันลมยาง

*1  : เนื่องจากต้องใช้ค่า “BATT_SOC” ก่อนถอดสายแบตเตอรี่ขั้วลบสำหรับการตั้งค่าเริ่มต้นของสภาพแบตเตอรี่ (การตั้งค่า i-stop) ให้จดบันทึกค่า “BATT_SOC” เก็บไว้ก่อนปลดสายแบตเตอรี่ขั้วลบ
*2  : สำหรับรถรุ่นที่มีระบบ i-stop ถ้าได้ถอดและต่อสายแบตเตอรี่ขั้วลบกลับเข้าไปใหม่ ต้องดำเนินการตั้งค่าเบื้องต้นของสภาพแบตเตอรี่ (การตั้งค่า i-stop)


สลับแหล่งจ่ายไฟโดยใช้ปุ่มกดสตาร์ทและสตาร์ทเครื่องยนต์

•  แหล่งจ่ายไฟจะเปลี่ยนไปตามสภาพของรถยนต์ เช่น ตำแหน่งคันเกียร์ (MTX)/คันเกียร์ (ATX) และการเหยียบ/ปล่อยแป้นเหยียบ
am3uun00002571

การถอดชิ้นส่วนต่างๆ

•  ในขณะแก้ไขปัญหา ให้พยายามหาสาเหตุของปัญหาด้วย ควรเริ่มต้นการทำงานเมื่อรู้แล้วว่าชิ้นส่วนและส่วนประกอบย่อยใดที่จำเป็นต้องถอดและแยกส่วนออกเพื่อเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมแซม หลังจากถอดชิ้นส่วนหนึ่งออกแล้ว ให้ใช้ปลั๊กอุดรูและช่องต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปได้
am6zzw00008916

การปรับตั้งโมดูลควบคุม (การตั้งค่าเริ่มต้น)

ข้อควรระวัง
•  ถ้าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการปรับตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์อย่างถูกต้องหลังจากเปลี่ยนโมดูลควบคุมที่ต้องการการตั้งค่า ระบบดังกล่าวจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ดังนั้น ให้ปฏิบัติงานตามขั้นตอนการเปลี่ยนที่ระบุอยู่ในคู่มือซ่อม
•  ถ้ามีการเปลี่ยนโมดูลควบคุม อาจจำเป็นต้องเขียนข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคของรถยนต์ไปที่โมดูลควบคุมตัวใหม่โดยใช้ M-MDS ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโมดูลควบคุมที่เปลี่ยน ขั้นตอนนี้ใช้สำหรับการปรับตั้งค่า (การตั้งค่าเริ่มต้น)
•  ขั้นตอนการปรับตั้งค่าสำหรับโมดูลควบคุมมีอยู่สามวิธีการดังต่อไปนี้:
―  การปรับตั้งค่าอัตโนมัติ
•  โมดูลควบคุมหลัก (ติดตั้งอยู่ในแผงหน้าปัด) จะดำเนินการปรับตั้งค่าโมดูลควบคุมตัวใหม่ด้วยตัวเองและใช้ข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคของรถยนต์ที่ส่งผ่านมาทางสาย CAN โดยอัตโนมัติ
―  การปรับตั้งค่าโดยอาศัยวิธีการอ่าน/เขียนข้อมูลรถยนต์
•  อ่านข้อมูลรถยนต์จากโมดูลควบคุมก่อนดำเนินการเปลี่ยนใหม่ และเขียนข้อมูลรถยนต์ไปที่โมดูลควบคุมตัวใหม่
―  การปรับตั้งค่าโดยใช้ข้อมูล As-Built:
•  ขอข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคของรถยนต์เมื่อรถยนต์จัดส่งออกมาจากโรงงาน และเขียนข้อมูลไปที่โมดูลควบคุมตัวใหม่
•  ให้ใช้การปรับตั้งค่าโดยใช้ข้อมูล As-Built ถ้าไม่สามารถอ่านข้อมูลรถยนต์ได้เนื่องจากโมดูลควบคุมที่ต้องการเปลี่ยนใหม่ชำรุดเสียหาย หรือถ้าพบรหัส DTC ที่แสดงว่ามีการตรวจพบความผิดปกติของการปรับตั้งค่า
•  ถ้าปรับตั้งค่าโมดูลควบคุมที่มีคุณสมบัติปรับแต่งส่วนตัวโดยใช้ข้อมูล As-Built การตั้งค่าที่ลูกค้าปรับแต่งไว้เป็นส่วนตัวจะถูกเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น (ค่าตั้งจากโรงงาน) ในกรณีนี้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องของค่าตั้งที่ลูกค้าตั้งไว้และเปลี่ยนค่าตั้งที่ปรับแต่งไว้เป็นส่วนตัวโดยใช้รายการ “Programmable Parameters” จากเมนู M-MDS
•  ถ้าใช้เมนูการตั้งโปรแกรมโมดูลของ M-MDS (Programmable Module Installation, As-Built, Programmable Parameters) ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวในขณะที่ไอคอนแบตเตอรี่ของ M-MDS เป็นสีเขียวหรือสีเทา

การถอดแยกชิ้นส่วน

•  ถ้าขั้นตอนการแยกชิ้นส่วนมีความซับซ้อน และจำเป็นต้องแยกชิ้นส่วนของส่วนประกอบหลายชิ้น ควรทำเครื่องหมายชิ้นส่วนทุกชิ้นไว้ในตำแหน่งที่จะไม่ส่งผลเสียต่อสมรรถนะการทำงานหรือลักษณะภายนอก และเป็นการระบุตำแหน่งเพื่อให้สามารถประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าไปใหม่ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
am6zzw00008917

การตรวจสอบระหว่างการถอดชิ้นส่วน การถอดแยกชิ้นส่วน

•  เมื่อถอดชิ้นส่วนแต่ละชิ้นออกแล้ว ควรตรวจสอบหาความผิดปกติ, การเสียรูป, ความเสียหาย และปัญหาอื่นๆ อย่างละเอียด
am6zzw00008918

การเตรียมชิ้นส่วน

•  ชิ้นส่วนที่ถูกถอดแยกออกแล้วทุกชิ้นควรจัดเรียงไว้อย่างละเอียดเพื่อประกอบกลับ
am6zzw00008919
•  ต้องแน่ใจว่าได้แยกหรือระบุชิ้นส่วนที่จะเปลี่ยนใหม่ออกจากชิ้นส่วนที่จะนำกลับมาใช้ใหม่

การทำความสะอาดชิ้นส่วน

•  ชิ้นส่วนทั้งหมดที่จะนำกลับมาใช้ใหม่ควรทำความสะอาดอย่างละเอียดและทั่วถึงตามวิธีการที่เหมาะสม
am6zzw00008920
คำเตือน
•  การใช้ลมอัดสามารถเป็นสาเหตุให้ฝุ่นและอนุภาคอื่นๆ ฟุ้งกระจายและทำอันตรายแก่ดวงตาได้ ต้องสวมแว่นตานิรภัยทุกครั้งที่ใช้งานลมอัด

การประกอบคืน

•  ต้องปฏิบัติตามค่ามาตรฐานต่างๆ เช่น ค่าแรงขันและค่าปรับเฉพาะอื่นๆ อย่างเคร่งครัดในการประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดกลับเข้าที่
am6zzw00008921
•  ถ้าถอดชิ้นส่วนเหล่านี้ออก ควรเปลี่ยนด้วยชิ้นส่วนใหม่:

ซีลน้ำมัน
สลักปลายแยก
ปะเก็น
น็อตล็อก (น็อตไนลอน)
โอริง
สลักสปริง
แหวนล็อก

•  ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง:
―  ควรทาสารกันรั่วและปะเก็น หรือทั้งสองอย่าง ลงในตำแหน่งที่กำหนดไว้ เมื่อทาสารกันรั่วแล้ว ควรติดตั้งชิ้นส่วนดังกล่าวก่อนที่สารกันรั่วจะแข็งตัวเพื่อป้องกันการรั่วซึม
―  ควรทาน้ำมันหล่อลื่นที่ส่วนประกอบที่มีการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนต่างๆ
―  ควรทาน้ำมันหล่อลื่นหรือจาระบีที่กำหนดที่ตำแหน่งที่ระบุไว้ (เช่น ซีลน้ำมัน) ก่อนการประกอบกลับ
am6zzw00008922

การปรับตั้ง

•  ใช้เกจวัดและเครื่องมือทดสอบที่เหมาะสมเมื่อทำการปรับ
am6zzw00008923

ชิ้นส่วนยางและท่อหุ้ม

•  ป้องกันไม่ให้น้ำมันเบนซินหรือน้ำมันหล่อลื่นเปื้อนชิ้นส่วนยางหรือท่อหุ้ม
am6zzw00008924

ที่หนีบท่ออ่อน

•  เมื่อติดตั้งกลับ ให้จัดตำแหน่งของที่หนีบท่ออ่อนไว้ที่ตำแหน่งเดิมบนท่ออ่อนและบีบที่หนีบเบาๆ ด้วยคีมขนาดใหญ่เพื่อให้มีความแน่นพอดี
am6zzw00008925
หมายเหตุ
•  ปฏิบัติตามคำอธิบายในแต่ละหัวข้อเนื่องจากที่หนีบที่ใช้กับระบบที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงต่างจากที่แสดงไว้ข้างต้น

สูตรการขัน

•  เมื่อใช้งานประแจแรงบิดร่วมกับ SST หรือเครื่องมือเทียบเท่าอื่น ต้องคำนวณค่าแรงขันที่กำหนดไว้ใหม่เนื่องจากต้องเพิ่มความยาวของ เครื่องมือพิเศษ (SST) หรือเครื่องเทียบเท่าเข้ากับประแจแรงบิด คำนวณค่าแรงขันใหม่โดยใช้สูตรต่อไปนี้ เลือกสูตรที่เหมาะกับคุณ
am6zzw00008926

หน่วยค่าแรงขัน

สูตร

N·m
N·m ×[L/(L+A)]
kgf·m
kgf·m ×[L/(L+A)]
kgf·cm
kgf·cm ×[L/(L+A)]
ft·lbf
ft·lbf ×[L/(L+A)]
in·lbf
in·lbf ×[L/(L+A)]

A  : ความยาวของเครื่องมือพิเศษ (SST) ที่เลยส่วนไดร์ฟของประแจแรงบิด
L  : ความยาวของประแจแรงบิด

คีมจับ

•  เมื่อใช้งานคีมจับ ให้วางแผ่นป้องกันไว้ในปากจับของคีมจับเพื่อป้องกันความเสียหายของชิ้นส่วน
am6zzw00008927

ไดนาโมมิเตอร์


ข้อควรระวังในการใช้งานไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์

•  เมื่อทำการตรวจสอบและให้บริการระบบส่งกำลังบนไดนาโมมิเตอร์หรือเครื่องมือทดสอบมาตรวัดความเร็ว ต้องระวังในสิ่งต่อไปนี้:
―  วางพัดลม ทางที่ดีควรเป็นประเภทได้สัดส่วนต่อความเร็วรถยนต์ ไว้ด้านหน้ารถยนต์
―  ต้องแน่ใจว่ารถยนต์อยู่ในอู่ซ่อมที่มีระบบถ่ายเทก๊าซไอเสีย
―  ต้องควบคุมความร้อนของกันชนหลังตลอดเวลาโดยการวางพัดลมระบายความร้อนไว้ใกล้กับท่อไอเสียเพื่อไม่ให้กันชนหลังเสียรูปเนื่องจากความร้อนจากไอเสีย
―  ดูแลไม่ให้บริเวณรอบๆ รถยนต์มีสิ่งของวางเกะกะเพื่อไม่ให้มีการสะสมความร้อน
―  สังเกตเกจวัดอุณหภูมิน้ำอยู่ตลอดเวลาและไม่ปล่อยให้เครื่องยนต์ร้อนจัด
―  หลีกเลี่ยงการเพิ่มโหลดให้แก่เครื่องยนต์และรักษาสภาพการขับขี่ปกติไว้ให้มากที่สุด
หมายเหตุ
•  เมื่อมีเฉพาะล้อหน้าหรือล้อหลังที่หมุนได้บนไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์หรืออุปกรณ์เทียบเท่า ABS/DSC HU/CM จะตัดสินว่ามีความผิดปกติใน ABS/DSC และเปิดไฟต่อไปนี้:
รถยนต์ที่มี ABS
―  ไฟเตือน ABS
―  ไฟเตือนระบบเบรก
รถยนต์ที่มี DSC
―  ไฟเตือน ABS
―  ไฟเตือนระบบเบรก
―  ไฟแสดงสถานะ TCS/DSC
•  ถ้าไฟข้างต้นติดสว่างขึ้น ให้ยกรถยนต์ออกจากไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์และหมุนสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่งปิด (LOCK) จากนั้น บิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง ON (สตาร์ทเครื่อง) ขับรถที่ความเร็ว 10 กม./ชม. {6.2 ไมล์/ชม.} หรือสูงกว่า และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟเตือนดังกล่าวดับลงแล้ว ในกรณีนี้ รหัส DTC จะถูกบันทึกอยู่ในหน่วยความจำ ล้างรหัส DTC ออกจากหน่วยความจำโดยการปฏิบัติตามขั้นตอนการล้างหน่วยความจำ [DSC] ในระบบการวิเคราะห์ปัญหาในรถยนต์ (ดู การล้างรหัส DTC [ABS HU/CM]) (ดู การล้างรหัส DTC [DSC HU/CM])


ข้อควรระวังสำหรับรถยนต์ที่มีระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (SCBS))

ข้อควรระวัง
•  ถ้าตรวจสอบรถยนต์ที่มีระบบต่อไปนี้โดยใช้ไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์ ต้องปิดการทำงานของระบบก่อนเริ่มต้นการตรวจสอบ
―  ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (SBS)
•  หากใช้งานไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์โดยไม่ปิดการทำงานของระบบก่อน ระบบเบรกอัตโนมัติจะทำงานและจะไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง
•  ในกรณีที่ใช้งานไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์โดยไม่ปิดการทำงานของระบบก่อน ต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมที่อ้างอิงไว้ต่อไปนี้ เนื่องจากไฟเตือนระบบอาจติดสว่าง และรหัส DTC จะถูกบันทึกเก็บไว้ในหน่วยความจำ

การหมุนล้อหน้าหรือล้อหลังด้านเดียว
•  ถ้าหมุนเฉพาะล้อหน้าหรือล้อหลัง ชุด DSC HU/CM จะตัดสินว่า DSC ทำงานผิดปกติ และไฟเตือนต่อไปนี้จะติดสว่างขึ้น
―  ไฟเตือนระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (SCBS) (สีเหลือง) ติดสว่างขึ้น
1.  ถ้าไฟเตือนดังกล่าวติดสว่างขึ้น ให้ยกรถยนต์ออกจากไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์ และ OFF สวิตช์กุญแจ
2.  หมุนสวิตช์กุญแจกลับไปที่ ON และขับรถที่ความเร็ว 10 กม./ชม. หรือสูงกว่า เพื่อตรวจสอบความถูกต้องว่าไฟเตือนดับลงแล้ว
3.  เนื่องจากมีรหัส DTC ถูกบันทึกไว้อยู่ ให้ล้างรหัส DTC ออกให้หมดโดยใช้ขั้นตอนการล้างหน่วยความจำ
การหมุนล้อทั้งสี่ล้อ
•  ถ้าล้อทั้งสี่หมุน ชุด DSC HU/CM จะตัดสินว่ามีความผิดพลาดในข้อมูลตำแหน่งของวัตถุที่ตรวจจับได้โดยเรดาร์เซ็นเซอร์ ดังนั้น ชุด DSC HU/CM จะตัดสินว่าเกิดความผิดปกติขึ้น และเปิดไฟเตือนต่อไปนี้
―  ไฟเตือนระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (SCBS) (สีเหลือง)
1.  ถ้าไฟเตือนดังกล่าวติดสว่างขึ้น ให้ยกรถยนต์ออกจากไดนาโมมิเตอร์สำหรับแชสซีส์ และ OFF สวิตช์กุญแจ
2.  หมุนสวิตช์กุญแจกลับไปที่ตำแหน่ง ON และตรวจสอบว่าไฟเตือนดังกล่าวดับลงและข้อความหายไปแล้ว
3.  เนื่องจากมีรหัส DTC ถูกบันทึกไว้อยู่ ให้ล้างรหัส DTC ออกให้หมดโดยใช้ขั้นตอนการล้างหน่วยความจำ