คำเตือนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงระบบถุงลมนิรภัย [ระบบควบคุมการพองตัวแบบมาตรฐาน]


id0810b2802400


การตรวจสอบโมดูลถุงลมนิรภัย

•  การตรวจสอบโมดูลถุงลมนิรภัยโดยใช้ตัวทดสอบอาจทำให้โมดูลถุงลมนิรภัยทำงาน (พองตัว) ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ห้ามใช้ตัวทดสอบในการตรวจสอบโมดูลถุงลมนิรภัย ให้ใช้ฟังก์ชันการวิเคราะห์ปัญหาในรถยนต์ในการตรวจสอบโมดูลถุงลมนิรภัยเพื่อตรวจหาการทำงานที่บกพร่อง
am3uuw00010338

การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัย

•  การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยก่อนที่แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS จะใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด อาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
•  ก่อนที่จะถอดโมดูลถุงลมนิรภัยออกหรือดึงขั้วต่อโมดูลถุงลมนิรภัยออก จะต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง ถอดสายขั้วลบของแบตเตอรี่ จากนั้นให้รอเป็นเวลา 1 นาทีหรือมากกว่าเพื่อที่จะให้แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS ใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด
•  การจัดการกับโมดูลถุงลมนิรภัยที่ยังไม่ถูกใช้งาน (ยังไม่พองตัว) โดยหันเข้าหาตัวของท่านอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้หากโมดูลถุงลมนิรภัยทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ การถือโมดูลถุงลมนิรภัยที่ยังไม่ถูกใช้งาน (ยังไม่พองตัว) ให้หันพื้นผิวส่วนที่ถุงลมจะพองตัวออกออกจากตัวของท่านเพื่อลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บในกรณีที่ถุงลมนิภัยทำงาน (พองตัว)
am3uuw00012329
•  การหันโมดูลถุงลมนิรภัยที่ยังไม่ถูกใช้งาน (ยังไม่พองตัว) โดยให้พื้นผิวส่วนที่ถุงลมจะพองตัวออกหันลงพื้นอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากโมดูลถุงลมนิรภัยทำงาน (พองตัว) อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ให้หันโมดูลถุงลมนิรภัยโดยให้พื้นผิวส่วนที่ถุงลมจะพองตัวออกหันขึ้นด้านบนเสมอ
am3uuw00012330

การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยด้านข้าง

•  การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยก่อนที่แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS จะใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด อาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
•  ก่อนที่จะถอดโมดูลถุงลมนิรภัยด้านข้างออกหรือดึงขั้วต่อโมดูลถุงลมนิรภัยด้านข้างออก จะต้องดับเครื่องยนต์และถอดสายขั้วลบของแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง จากนั้นให้รอเป็นเวลา 1 นาทีหรือมากกว่าเพื่อที่จะให้แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS ใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด
•  เมื่อโมดูลถุงลมนิรภัยด้านข้างทำงาน (พองตัว) เนื่องมาจากการชนปะทะ ชิ้นส่วนภายในของพนักพิงหลัง (แผ่นรอง โครง แผง) อาจได้รับความเสียหาย หากถุงลมนิรภัยด้านข้างไม่ทำงานตามปกติ (พองตัว) จากพนักพิงหลังที่นำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ หลังจากที่ถุงลมนิรภัยด้านข้างทำงาน (พองตัว) ให้ทำการเปลี่ยนทั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างและพนักพิงหลัง (แผ่นรอง โครง แผง) ด้วยชิ้นส่วนใหม่ หลังจากการซ่อมบำรุง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่นั่งทำงานได้ตามปกติและชุดสายไฟไม่ติดขัด

การจัดการโมดูลควบคุม SAS

•  เมื่อเชื่อมต่อหรือดึงขั้วต่อโมดูลควบคุม SAS ออก บุคคลที่มีไฟฟ้าสถิตย์อาจทำให้โมดูลถุงลมนิรภัยแต่ละชิ้นทำงาน (พองตัว) ก่อนที่จะเชื่อมต่อหรือดึงขั้วต่อโมดูลควบคุม SAS ออก ให้ระบายไฟฟ้าสถิตย์ออกจากร่างกายของท่าน
•  การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยก่อนที่แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS จะใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด อาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
•  การถอดโมดูลควบคุม SAS หรือดึงขั้วต่อโมดูลควบคุม SAS ออกโดยสวิตช์กุญแจอยู่ที่ตำแหน่ง ON อาจทำให้เซ็นเซอร์ในโมดูลควบคุม SAS ทำงานและทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ก่อนที่จะถอดโมดูลควบคุม SAS ออกหรือดึงขั้วต่อโมดูลควบคุม SAS ออก จะต้องดับเครื่องยนต์และถอดสายขั้วลบของแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง จากนั้นให้รอเป็นเวลา 1 นาทีหรือมากกว่าเพื่อที่จะให้แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS ใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด
•  การต่อขั้วต่อโมดูลควบคุม SAS เข้ากับโมดูลควบคุม SAS ที่ไม่ยึดอย่างแน่นหนากับรถยนต์อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เซ็นเซอร์ที่อยู่ในโมดูลควบคุม SAS อาจส่งสัญญาณไฟฟ้าไปที่ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ ซึ่งอาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ดังนั้น ก่อนที่จะต่อขั้วต่อ ให้ยึดโมดูลควบคุม SAS กับรถยนต์ให้แน่นหนา
•  เนื่องจากเซ็นเซอร์ติดตั้งอยู่ภายในโมดูลควบคุม SAS ทันทีที่ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) เนื่องมาจากการชนปะทะหรือสาเหตุอื่นๆ จะต้องเปลี่ยนโมดูลควบคุม SAS อันใหม่แม้ว่าอันเดิมจะไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายหรือการเสียรูปภายนอกเกิดขึ้นก็ตาม โมดูลควบคุม SAS ที่ใช้แล้วอาจจะได้รับความเสียหายภายใน ซึ่งอาจส่งผลให้ทำงานไม่เหมาะสม หากมีการนำโมดูลควบคุม SAS กลับมาใช้ใหม่ ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอาจไม่สามารถทำงาน (พองตัว)ได้ตามปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เปลี่ยนโมดูลควบคุม SAS ใหม่ทุกครั้ง โมดูลควบคุม SAS ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยการใช้อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการหรือตรวจสอบด้วยตัวเอง

การจัดการเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชน

•  การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยก่อนที่แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS จะใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด อาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
•  การถอดเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนออกหรือดึงขั้วต่อเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนออก โดยสวิตช์กุญแจอยู่ที่ตำแหน่ง ON อาจทำให้เซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนทำงาน และถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงานโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ก่อนที่จะถอดเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนออกหรือดึงขั้วต่อเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนออก จะต้องดับเครื่องยนต์และถอดสายขั้วลบของแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง จากนั้นให้รอเป็นเวลา 1 นาทีหรือมากกว่าเพื่อที่จะให้แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS ใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด
•  หากเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนเกิดการสั่นสะเทือนหรือเซ็นเซอร์ถูกแยกชิ้นส่วน ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอาจทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ หรือระบบอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติและทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ อย่าให้เซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนเกิดการสั่นสะเทือนหรือถอดแยกชิ้นส่วนเซ็นเซอร์
•  เนื่องจากเซ็นเซอร์ติดตั้งอยู่ภายในเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชน ทันทีที่ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) เนื่องมาจากการชนปะทะหรือสาเหตุอื่นๆ จะต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนอันใหม่แม้ว่าอันเดิมจะไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายหรือการเสียรูปภายนอกเกิดขึ้นก็ตาม หากมีการนำเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนกลับมาใช้ใหม่ ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอาจไม่สามารถทำงาน (พองตัว) ได้ตามปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เปลี่ยนเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนอันใหม่ทุกครั้ง เซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการชนไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยการใช้อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการหรือตรวจสอบด้วยตัวเอง

การจัดการเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้าง

•  การจัดการโมดูลถุงลมนิรภัยก่อนที่แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS จะใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด อาจทำให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
•  การถอดเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างหรือดึงขั้วต่อเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างออกโดยสวิตช์กุญแจอยู่ที่ตำแหน่ง ON อาจทำให้เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างและถุงลมนิรภัยด้านข้างทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ก่อนที่จะถอดเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างหรือดึงขั้วต่อเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างออก จะต้องดับเครื่องยนต์และถอดสายขั้วลบของแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง จากนั้นให้รอเป็นเวลา 1 นาทีหรือมากกว่าเพื่อที่จะให้แหล่งพลังงานสำรองของโมดูลควบคุม SAS ใช้พลังงานที่เก็บไว้จนหมด
•  หากเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างเกิดการสั่นสะเทือนหรือเซ็นเซอร์ถูกแยกชิ้นส่วน ถุงลมนิรภัยด้านข้างอาจทำงาน (พองตัว) โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ หรือระบบอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติและทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ อย่าให้เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างเกิดการสั่นสะเทือนหรือถอดแยกชิ้นส่วนเซ็นเซอร์
•  เนื่องจากเซ็นเซอร์ติดตั้งอยู่ภายในเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ทันทีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน (พองตัว) เนื่องมาจากการชนปะทะหรือสาเหตุอื่นๆ จะต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างอันใหม่แม้ว่าอันเดิมจะไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายหรือการเสียรูปภายนอกเกิดขึ้นก็ตาม หากมีการนำเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างกลับมาใช้ใหม่ ถุงลมนิรภัยด้านข้างอาจไม่สามารถทำงาน (พองตัว) ได้ตามปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เปลี่ยนเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างอันใหม่ทุกครั้ง เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยด้านข้างไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยการใช้อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการหรือตรวจสอบด้วยตัวเอง

การตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับของเบาะหน้า

•  การตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับของเบาะหน้าโดยใช้ตัวทดสอบอาจทำให้เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับของเบาะหน้าทำงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ ห้ามใช้ตัวทำสอบในการตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับของเบาะหน้า ให้ใช้ฟังก์ชันการวิเคราะห์ปัญหาในรถยนต์ในการตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับของเบาะหน้าเพื่อตรวจหาการทำงานที่บกพร่อง
ac5uuw00001455