การเติมน้ำยาแอร์


id071000800400

ข้อควรระวัง
•  อย่าใช้น้ำยาแอร์ประเภทอื่นหรือชาร์จมากเกินกว่าระดับที่กำหนด มิฉะนั้น ประสิทธิภาพในการทำความเย็นจะลดลงและคอมเพรสเซอร์ A/C อาจได้รับความเสียหาย
หมายเหตุ
•  นํ้ายาแอร์ที่ใช้สำหรับระบบปรับอากาศอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เมื่อต้องการระบายหรือเติมนํ้ายาแอร์ โปรดตรวจสอบชนิดและปริมาณของนํ้ายาแอร์จากป้ายฉลาก
am2zzw00009531

ประเภทเครื่องยนต์

ประเภทน้ำยาแอร์

ปริมาณที่เหมาะสมของน้ำยาแอร์ (ปริมาณโดยประมาณ) (กรัม {ออนซ์})

SKYACTIV-G 1.3, SKYACTIV-G 1.5
HFC-134a (R-134a)
395—445 {14.0—15.6}
HFO-1234yf (R-1234yf)
335—385 {11.9—13.5}
SKYACTIV-D 1.5
HFC-134a (R-134a)
395—445 {14.0—15.6}
HFO-1234yf (R-1234yf)
365—415 {12.9—14.6}


การเติมน้ำยาแอร์ HFC-134a ที่ผ่านการรีไซเคิล

1.  ต่ออุปกรณ์ฟื้นฟู/รีไซเคิล/รีชาร์จน้ำยาแอร์ HFC-134a เข้ากับรถและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอุปกรณ์


การเติมน้ำยาแอร์ HFO-1234yf ที่ผ่านการรีไซเคิล

1.  ต่อเครื่องมือฟื้นฟู/รีไซเคิล/รีชาร์จน้ำยาแอร์ HFO-1234yf เข้ากับรถและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเครื่องมือ


การเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์

1.  วัดน้ำหนักน้ำมันคอมเพรสเซอร์ซึ่งหายไปเมื่อเก็บน้ำยาแอร์

2.  เมื่อจะเติมน้ำยาแอร์ ต้องเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์ใหม่ที่มีน้ำหนักเท่ากับปริมาณน้ำยาแอร์ในระบบที่หายไป


การเตรียมการเติมน้ำยาแอร์

1.  ปิดวาล์วทั้งหมดของมาตรวัดแรงดัน

2.  ปิดวาล์วถังน้ำยาแอร์

3.  ติดตั้งชุดมาตรวัดแรงดัน (ดู ขั้นตอนทั่วไปในระบบน้ำยาแอร์)

4.  ต่อด้านขาพินของแท็บของท่อชาร์จเข้ากับวาล์วไล่อากาศของมาตรวัดแรงดัน

am3zzw00015200

5.  ต่อท่อปั๊มสุญญากาศเข้ากับข้อต่อกลางของมาตรวัดแรงดัน

6.  ต่อท่อปั๊มสุญญากาศเข้ากับปั๊มสุญญากาศ

7.  ติดท่อเติมน้ำยาแอร์เข้ากับถังน้ำยาแอร์

8.  วางถังน้ำยาแอร์บนเครื่องชั่ง


การระบายน้ำยาแอร์

1.  เปิดวาล์๋วทุกตัวของมาตรวัดแรงดัน

am2zzw00009532

2.  เริ่มต้นการทำงานของปั๊มสุญญากาศและปล่อยให้เครื่องทำงานนาน 15 นาที

3.  ตรวจสอบว่าค่าที่อ่านได้จากด้านแรงดันสูงและแรงดันต่ำของมาตรวัดแรงดันอยู่ที่ –101 kPa {–1.03 kgf/cm2, -14.6 psi}

am2zzw00009533

ข้อควรระวัง
•  ถ้าเปิดวาล์วมาตรวัดแรงดันทิ้งไว้ น้ำมันของปั๊มสุญญากาศจะไหลย้อนกลับเข้าไปในวงจรน้ำยาแอร์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง หลังจากหยุดการทำงานของปั๊มสุญญากาศ ให้ปิดวาล์วมาตรวัดแรงดันทันที

4.  หยุดการทำงานของปั๊มสุญญากาศและปิดวาล์วทุกตัวของมาตรวัดแรงดัน

5.  รอ 5 นาที หลังจากหยุดการทำงานของปั๊มสุญญากาศ และตรวจสอบอากาศเข้าในระบบน้ำยาแอร์ (ดู การตรวจสอบอากาศเข้า)


การตรวจสอบอากาศเข้า

1.  ตรวจสอบค่าที่อ่านได้จากด้านแรงดันสูงและแรงดันต่ำของมาตรวัดแรงดัน

•   ถ้าค่าที่อ่านได้จากมาตรวัดแรงดันเปลี่ยนไป ให้ตรวจสอบระบบน้ำยาแอร์ตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาตามอาการ (ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ])(ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา])
•  ถ้าค่าที่อ่านได้ไม่เปลี่ยนแปลง ให้ไปที่การเติมน้ำยาแอร์ใหม่ (ดู การเติมน้ำยาแอร์ใหม่)


การเติมน้ำยาแอร์ใหม่

คำเตือน
•  ถ้าเติมน้ำยาแอร์ปริมาณมากเข้าไปในระบบน้ำยาแอร์ในขณะตรวจสอบหาการรั่วซึมของก๊าซ และถ้ามีการรั่วซึมเกิดขึ้น น้ำยาแอร์อาจรั่วไหลออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ ซึ่งจะทำลายชั้นโอโซนในชั้นบรรยากาศสตราโทสเฟียร์ โปรดปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมและเติมน้ำยาแอร์ในปริมาณน้อยขณะตรวจหาการรั่วซึม
•  ถ้าสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่วาล์วด้านแรงดันสูงเปิดอยู่ น้ำยาแอร์ซึ่งมีแรงดันสูงจะไหลกลับเข้าไปในถังน้ำยาแอร์ ทำให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่วาล์วด้านแรงดันสูงเปิดอยู่
ข้อควรระวัง
•  ถ้าเริ่มเติมน้ำยาแอร์จากด้านแรงดันต่ำ ใบพัดคอมเพรสเซอร์ A/C จะไม่กางออกและอาจได้ยินเสียงที่ผิดปกติ ดังนั้น ให้เริ่มเติมน้ำยาแอร์จากด้านแรงดันสูง

1.  เปิดวาล์วของถังน้ำยาแอร์

am2zzw00009534

2.  ชั่งน้ำหนักของถังน้ำยาแอร์เพื่อชาร์จน้ำยาแอร์ในปริมาณที่เหมาะสม

3.  เปิดวาล์วด้านแรงดันสูงของมาตรวัดแรงดัน

4.  เมื่อค่าที่อ่านได้ที่ด้านแรงดันต่ำเพิ่มขึ้นจนถึง 0.098 MPa {1.0 kgf/cm2, 14 psi} ให้ปิดวาล์วด้านแรงดันสูงของมาตรวัดแรงดัน

am2zzw00009535

5.  ตรวจหาการรั่วซึมที่จุดเชื่อมต่อของท่อ/สายคูลเลอร์โดยใช้เครื่องมือทดสอบการรั่วซึมของก๊าซ

•  ถ้าไม่มีการรั่วซึม ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 7
•  ถ้าพบการรั่วซึมที่ข้อต่อที่หลวม ให้ขันแน่นข้อต่อดังกล่าว จากนั้นไปยังขั้นตอนถัดไป

6.  ตรวจหาการรั่วซึมอีกครั้ง

•  ถ้าไม่มีการรั่วซึมหลังจากขันแน่นข้อต่อแล้ว ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป
•  ถ้าน้ำยาแอร์รั่ว ให้ตรวจสอบระบบน้ำยาแอร์ตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาตามอาการ (ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ])(ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา])

7.  เปิดวาล์วด้านแรงดันสูงของมาตรวัดแรงดันและชาร์จน้ำยาแอร์เข้าไปจนกระทั่งน้ำหนักของถังน้ำยาแอร์ลดลง 250 กรัม {8.82 ออนซ์} จากปริมาณที่มีในขั้นตอนที่ 2

am2zzw00009536

8.  ปิดวาล์วด้านแรงดันสูงของมาตรวัดแรงดัน

am2zzw00009535

9.  สตาร์ทเครื่องยนต์และใช้งานคอมเพรสเซอร์ A/C

คำเตือน
•  ถ้าวาล์วด้านแรงดันสูงเปิดอยู่ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน น้ำยาแอร์ซึ่งมีแรงดันสูงจะไหลกลับเข้าไปในถังน้ำยาแอร์ ทำให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ห้ามเปิดวาล์วด้านแรงดันสูงในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน

10.  เปิดวาล์วด้านแรงดันต่ำของมาตรวัดแรงดันและชาร์จน้ำยาแอร์เข้าไปจนกระทั่งน้ำหนักของถังน้ำยาแอร์ลดลงจนถึงระดับปกติจากปริมาณที่มีในขั้นตอนที่ 2

am2zzw00009537

คำเตือน
•  ถ้าเติมน้ำยาแอร์เข้าไปในระบบโดยที่พลิกถังน้ำยาแอร์กลับด้าน น้ำยาแอร์ที่มีสถานะเป็นของเหลวจะถูกเติมเข้าไปในระบบ ทำให้คอมเพรสเซอร์ A/C มีแรงดันที่สูงขึ้น และเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ห้ามเติมน้ำยาแอร์โดยที่พลิกถังน้ำยาแอร์กลับด้าน

11.  ปิดวาล์วด้านแรงดันต่ำของมาตรวัดแรงดันและวาล์วของถังน้ำยาแอร์

am2zzw00009538

12.  ดับเครื่องยนต์และคอมเพรสเซอร์ A/C

13.  ทำการทดสอบการรั่วซึม (ดู การทดสอบการรั่วซึม)


การทดสอบหาการรั่วซึม

1.  ตรวจสอบหาการรั่วซึมโดยใช้เครื่องมือทดสอบการรั่วซึมของก๊าซ

•  ถ้าไม่มีการรั่วซึม ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 3
•  ถ้าพบการรั่วซึมที่ข้อต่อที่หลวม ให้ขันแน่นข้อต่อดังกล่าว จากนั้นไปยังขั้นตอนถัดไป

2.  ตรวจหาการรั่วซึมอีกครั้ง

•  ถ้าน้ำยาแอร์ไม่มีการรั่วซึม ให้ดำเนินการจากขั้นตอนการทำงานของปั๊มสุญญากาศอีกครั้ง (ดู การระบายน้ำยาแอร์)
•  ถ้าน้ำยาแอร์รั่ว ให้ตรวจสอบระบบน้ำยาแอร์ตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาตามอาการ (ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ])(ดู คำนำ [เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา])

3.  ปลดข้อต่อสวมเร็วออกจากวาล์วท่อเติม

am2zzw00009539

4.  ปิดฝาวาล์วท่อเติม